top of page
Branding_100[Jun2023]-03.jpg

เผยจุดเริ่มต้นเดียวกันที่แตกต่างระหว่างช็อกโกแลตกับโกโก้

แอดมินเชื่อว่าเมนูขนมหรือเครื่องดื่มสุดโปรดปรานสำหรับสายหวานที่ติดอันดับและครองใจใครหลายๆ คน จะต้องมีช็อกโกแลต และโกโก้อยู่ในนั้นอย่างแน่นอน แต่สำหรับบางคนแล้วอาจจะชอบเพียงช็อกโกแลต หรือโกโก้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นก็เป็นได้ เพราะด้วยรสชาติและสัมผัสที่แตกต่างกันไป แม้จะมีที่มาจากต้นโกโก้เหมือนกันก็ตาม ซึ่งในวันนี้ท็อปส์ พิกส์ จะขออาสามาคลายข้อสงสัยให้กับทุกคนได้ทราบกันว่าช็อกโกแลตกับโกโก้นั้นมีความแตกต่างกันตรงไหนบ้างแบบจุดต่อจุด สาวกคนรักช็อกโกแลต และโกโก้เลิฟเวอร์ต้องห้ามพลาดคอนเทนต์นี้เด็ดขาด ถ้าพร้อมแล้วตามแอดมินไปพบคำตอบกันเลยค่า!



แอดมินขอเริ่มต้นเล่าถึงเรื่องราวกระบวนการผลิตทั้งช็อกโกแลตและโกโก้ อันมีที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกันก่อน ซึ่งเราจะนำเมล็ดคาเคาสีขาวเรียงตัวกันอย่างอัดแน่นในผลคาเคา ที่มีลักษณะเป็นฝักสีเขียวคล้ายผลมะละกอจากต้นคาเคา หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อต้นโกโก้ มาหมักจนทำให้เกิดรสชาติ และเปลี่ยนรูปลักษณ์จนกลายเป็นสีน้ำตาล จากนั้นเราก็จะนำไปคั่วหรือตากให้แห้ง จนกระทั่งกระเทาะเปลือกสีน้ำตาลออก ซึ่งในขั้นตอนนี้เราจะเรียกว่าเมล็ดคาเคา นิปส์ (Cacao Nips) ค่ะ จากนั้นก็จะนำผลผลิตที่ได้มาโม่และบดให้ละเอียด ก่อนที่จะนำไปรีดอัดจนกลายเป็นของเหลว หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่าโกโก้ ลิเคอร์ (Cocoa Liquor) นั่นเองค่ะ และในย่อหน้าต่อไปเราก็จะได้รู้กันแล้วว่าช็อกโกแลตและโกโก้นั้นมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันอย่างไร ตามแอดมินมาเลยค่า!


ช็อกโกแลต


หลังจากที่เราได้โกโก้ ลิเคอร์ จากกระบวนการผลิตในข้างต้นกันแล้ว ต่อมาก็จะเป็นกระบวนการผลิตช็อกโกแลตคือการนำโกโก้ ลิเคอร์ มาสกัดเป็นผงเลยทันที โดยปราศจากการคัดแยกไขมัน หรือคัดออกเพียงเล็กน้อยจากส่วนผสม จึงเป็นที่มาของรสชาติและสัมผัสอันหอมหวานมันจนทำให้ใครหลายๆ คนต่างตกหลุมรักขึ้นไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ แต่ความหอมหวานมันก็มาพร้อมกับปริมาณไขมันที่สูงลิบเลยทีเดียวค่ะ เพราะในตัวช็อกโกแลตนั้นจะมีไขมันสูงมากกว่า 50% ค่ะ และเมื่อไปผสมรวมกับน้ำตาล หรือวัตถุดิบอื่นๆ อย่างนม ถั่ว และผลไม้แห้ง บอกเลยว่าพลังงานพุ่งปรี๊ด! ดังนั้นเพื่อนๆ จึงต้องบริโภคแต่น้อย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่กันไปด้วยนะคะ


สำหรับเมนูที่แอดมินอยากจะแนะนำให้ลองเมื่อได้ทานช็อกโกแลตก็คือช็อกโกแลตบาร์ ที่เพื่อนๆ สามารถหาทานได้หลากหลายแบบทั้งดาร์กช็อกโกแลต มิลค์ช็อกโกแลต หรือไวท์ช็อกโกแลต โดยแอดมินจะขอแอบบอกพิกัดกับทุกคนไปช็อปที่ท็อปส์ ทุกสาขา หรือช็อปผ่านท็อปส์ ออนไลน์ก็สะดวกง่ายสุดๆ ไปเลยค่ะ และใครที่เป็นสายขนมหรือเครื่องดื่ม แอดมินก็ขอแนะนำเป็นเมนูคุกกี้ช็อกโกแลตลาวา คุกกี้เนยโรยช็อกโกแลตชิปสอดไส้ช็อกโกแลตลาวาเยิ้มๆ ฟินๆ จับคู่กับช็อกโกแลตเย็นเข้มข้นสักแก้ว รับรองชื่นใจสุดๆ เลยค่ะ


โกโก้


สำหรับกระบวนการผลิตโกโก้ หลังจากที่เราได้โกโก้ ลิเคอร์มาแล้ว เราจะมาทำการคัดแยกไขมันออกจากของเหลวให้เหลือปริมาณที่น้อยที่สุด หรือแทบไม่เหลือเลย ทำให้คนที่ทานโกโก้นั้นจะได้รับปริมาณไขมันเพียง 0-25% เท่านั้นค่ะ โกโก้นั้นจะมีจุดเด่นอยู่ตรงที่ความหอม รสขมที่เข้มข้นสุดๆ แถมยังมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนักสุดๆ เลยค่ะ


เมนูที่ทุกคนต้องลองเมื่อได้ทานโกโก้อันดับแรกเลยคือโกโก้เย็นค่ะ โกโก้เข้มๆ ใส่นมข้นนิดๆ น้ำตาลหน่อยๆ คนรวมจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ลงแก้วที่มีน้ำแข็งบดละเอียด ได้ลองสักทีบอกเลยว่าชื่นใจลืมอากาศร้อนไปเลยค่ะ หรือถ้าใครยังเย็นสะใจไม่พอ แอดมินก็ขอแนะนำเป็นเมนูไอศกรีมโกโก้ ยิ่งนำไปท็อปปิ้งลงบนบราวนีเข้มๆ สักชิ้น เพิ่มวิปครีมอีกนิด ครีเอทเป็นเมนูขนมในร้านคาเฟ่ชิคๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ อวดลงโซเชียลได้อีกด้วยค่ะ


ดังที่แอดมินได้แนะนำเมนูเด็ดจากช็อกโกแลตและโกโก้ วันนี้ท็อปส์ พิกส์เลยจะขอมาแจกสูตรเมนูขนมที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตและโกโก้ให้ทุกคนได้ลองไปทำตามกันดูค่ะ ซึ่งเมนูที่ว่านี้ก็คือ “บราวนีช็อกโกแลตครันช์ชี่” บราวนีโกโก้เข้มข้นเนื้อหนึบหนับ ท็อปปิ้งด้วยข้าวพองคลุกซอสเนยถั่วช็อกโกแลตรสหวานกรุบกรอบ อร่อยเข้ากันสุดๆ เลยค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าเมนูขนมหวานจากช็อกโกแลตและโกโก้มีเคล็ดลับอย่างไรที่ทำให้อร่อยยกกำลังสอง ตามแอดมินไปชมพร้อมๆ กันเลยค่า



วัตถุดิบ


1. ผงโกโก้ ¾ ถ้วย

2. เวทโทรส เอสเซนเชียล แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1ถ้วย

3. โคลส์ เนยจืดในอุณหภูมิห้อง 1 ถ้วย

4. มายช้อยส์ ไข่ไก่จากแม่ไก่ที่ไม่ถูกขังกรง 4 ฟอง

5. ซีเรียลข้าวพอง 3 ถ้วย

6. ดาร์กช็อกโกแลตชิป 1 ถ้วย

7. โคลส์ เนยถั่วออร์แกนิคชนิดบดละเอียด ½ ถ้วย

8. ครีมมาร์ชแมลโลว์ 7 ออนซ์

9. ท็อปส์ น้ำตาลทรายขาว 1½ ถ้วย

10. เกลือ ½ ช้อนชา

11. กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา



วิธีทำ


1. นำโคลส์ เนยจืดในอุณหภูมิห้อง และท็อปส์ น้ำตาลทรายขาว ปริมาณ 1 ถ้วย ใส่ลงในชามผสมอาหาร จากนั้นใช้เครื่องตีไฟฟ้าคนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายขาวส่วนที่เหลืออีก ½ ถ้วย และตอกมายช้อยส์ ไข่ไก่จากแม่ไก่ที่ไม่ถูกขังกรง จำนวน 4 ฟองลงไป ตามด้วยใส่กลิ่นวานิลลา แล้วตีให้เข้ากันอีกครั้ง


2. ใส่เวทโทรส เอสเซนเชียล แป้งสาลีอเนกประสงค์ ลงในชามผสมอาหาร ตามด้วยผงโกโก้ ปรุงรสด้วยเกลือ แล้วใช้ไม้พายทำขนมค่อยๆ ตะล่อมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน จากนั้นก็เทส่วนผสมบราวนีโกโก้ลงในถาดอบที่รองกระดาษไขเตรียมไว้ แล้วนำเข้าเตาอบร้อน ปรับอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 30 นาที


3. ในระหว่างที่รอบราวนีโกโก้ เราจะมาทำในส่วนของท็อปปิ้งกัน โดยเริ่มจากนำดาร์กช็อกโกแลตชิป โคลส์ และเนยถั่วออร์แกนิคชนิดบดละเอียด ใส่ลงในชามผสมอาหาร แล้วนำเข้าเตาอบไมโครเวฟ เป็นเวลาประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าส่วนผสมจะละลายเข้ากัน จากนั้นเทซีเรียลข้าวพองใส่ลงในชามเนยถั่วช็อกโกแลตแล้วคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันดี


4. เมื่อได้บราวนีโกโก้ตามต้องการแล้ว ให้นำออกจากเตาอบ จากนั้นนำครีมมาร์ชแมลโลว์มาทาเคลือบลงบนผิวบราวนี แล้วท็อปปิ้งด้วยซีเรียลข้าวพองเนยถั่วช็อกโกแลตให้เต็มทุกพื้นที่ นำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้หน้าเซ็ตตัวคงที่เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาตามกำหนดแล้ว ก็นำออกจากตู้เย็น ตัดเป็นชิ้นๆ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยของช็อกโกแลตและโกโก้แบบเต็มๆ คำได้ในทันทีเลยค่า...


ไม่ว่าคุณจะเป็นทีมช็อกโกแลตหรือทีมโกโก้ ก็สามารถเพลิดเพลินกับเมนู “บราวนีช็อกโกแลตครันช์ชี่” ได้ทุกคน เพราะในเมนูนี้นั้นรวมทั้งส่วนผสมของช็อกโกแลตและโกโก้ไว้ในที่เดียว ซึ่งพออยู่รวมกันแล้วอร่อยมาก! แบบยกกำลังสองไปเลยค่า สำหรับเพื่อนๆ คนไหนสนใจจะทำเมนูนี้แอดมินก็มีลิสต์วัตถุดิบเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงถือลิสต์นั้นมาช็อปกันด่วนๆ ที่ท็อปส์ ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ หรือจะเลือกช็อปสะดวกง่ายสบายคุณกับท็อปส์ ออนไลน์ คลิกช็อปวัตถุดิบที่ลิงก์ที่แอดมินแปะไว้ได้เลยค่ะ สำหรับวันนี้แอดมินต้องขอตัวลาไปทานขนมจับคู่กับนมอุ่นๆ สักแก้วก่อนนะคะ สัปดาห์หน้าแอดมินจะมีสาระน่ารู้อะไรมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ บ๊ายบายค่า...


Branding_100[Jun2023]-02.jpg
shop anywhere.jpg
bottom of page